Fixed Gear ไม่ใช่กระแส แต่มันเป็น lifestyle

ทุกวันนี้คิดดูว่าเมืองไทยนั้น....มันไม่เหมาะปั่นจักรยานหรอ แต่ไม่น่าใช่นะ ผมเห็นคนอื่นเขาปั่นกันได้ ก็เริ่มมีความคิดที่จะซื้อมาดูบ้าง เพราะมันใช้งานได้จริงๆ ไม่เหมือนพวกสเกตบอร์ดแค่เล่นๆ แล้วก็เลิก แต่จักรยานคุณปั่นไปเถอะ กี่ปีก็ปั่นไหว แล้วมันได้อะไรมากกว่าที่คิดนะ.....
พอลองดูถนนบ้านเราแล้ว อนิจจัง พื้นผิวถนนไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่แต่มีเป็นบางทีที่ดีและมีเลนจักรยานให้ด้วย(ทุกวันนี้มอเตอร์ไซค์) เออแล้วทำไมกรุงเทพฯ ไม่ค่อยได้มีเลนจักรยานล่ะ ก็เป็นเพราะคนกรุงเทพฯ การดำเนินชีวตที่เร่งรีบซ่ะขนาดนี้ใครจะมาปั่นจักรยานล่ะคร๊าบบบ หะหะหะ และอีกอย่างรถก็เยอะไปหมด ส่งควันท่อไอเสียไปทั่วอากาศ เฮ้อออ ดีเนอะ บ้านเรา แต่ที่ผมทำบล็อกนี้ขึ้นมาเพราะอยากให้มีคนหันมาสนใจกันมากขึ้น หันมาประหยัดพลังงานกันหน่อย ใช้ระบบขนส่งมวลชน BTS ก็ดีประหยัดได้อีก ทำให้กรุงเทพฯ น่าอยู่ลดมลภาวะ แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานไหนที่เข้ามาสนใจอย่างจริงจัง ก็จะมีแต่วัยรุ่นเนี่ยแหละ ที่เป็นแรงผลักดัน ส่งเสริม กันไป มันก็กลายเป็นเทรนด์ที่เข้ามา หลายวันที่ผ่านมาเข้าไปดู Youtube ต่างชาติเข้าปั่นกันเป็นชีวิตจิตใจ ปั่นไปทำงาน บ้างก็ปั่นเล่นๆ ต่างๆ นานา ทำให้ผมคิดว่าเราก็ทำได้นะ แต่ทำไมเราไม่ค่อยเห็น (ไม่มีคนส่งเสริม) เพราะจักรยานเป็นพาหนะที่เล็กๆ มักจะโดนเอาเปรียบจากรถคันใหญ่เสมอ!!!!!

2/2/2011 วันนี้ได้เข้าไปศึกษาวิถีการปั่นจักรยานของต่างประเทศแล้วว่าเขามีวิธีการอย่างไรในการจัดการที่ทำให้คนหันมาใช้จักรยานกันมากขึ้น (ไม่จำเป็นต้องฟิกซ์เกียร์) เป็นการผสมสานวัฒนธรรมขึ้นในเมืองหลวงที่มีการจราจรหนาแน่น ถ้าถามว่าทำไมเมืองไทยจะทำแบบนี้ไม่ได้ แต่ต้องใช้เวลาเป็นสิบๆปีเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่การวางผังเมือง (แก้ไม่ได้) การใช้กฏเกณฑ์กับรถยนต์ การสร้างทางพิเศษให้จักรยาน เป็นต้น แต่บ้านเรามันใช้ไม่ได้มีทางให้จักรยานก็โดนมอไซค์ยึดไปแทน และ พวกที่จอดรถ วางของหาบเร่ สุดท้ายคือมีกำดักคือท่อระบายน้ำ เหอะๆ ทำให้จักยานไม่มีทางให้ปั่น แต่มีเลนจักรยานไว้เพื่ออะไร(ให้มอไซค์วิ่ง) ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะ แต่อยากจะแนะนำให้ไปอ่านในนี้ http://www.sarakadee.com/web/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=1060 "อ้างอิงจากนิตยสารสารคดี"

*ซึ่งมันจะให้คุณผู้อ่านพบกับสื่งที่เป็นไปได้ ถ้าเราร่วมกันกันสร้างสิ่งดีๆให้กับตัวคุณเองและสังคมในอนาคต*